การดูแลตนเองเมื่อมีภาวะเลือดออกง่าย
รศ.พญ.ดารินทร์ ซอโสตถิกุล
สาขาโลหิตวิทยาและมะเร็งในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ภาวะเลือดออกง่ายหยุดยากเกิดจากสาเหตุอะไร
เกิดได้จากการที่มีกลไกการห้ามเลือดที่ผิดปกติ ได้แก่ ความผิดปกติของผนังหลอดเลือด (blood vessel wall) ปริมาณและคุณภาพของเกล็ดเลือด (platelets) และปัจจัยการแข็งตัวของเลือดต่างๆ (coagulation factors) ที่มีปริมาณลดลง ที่ก่อให้มีปัญหาเลือดออกง่ายหยุดยาก ได้ทั้งทางผิวหนัง โดยเห็นเป็นรอยช้ำ หรือจุดเลือดออก หรือภายในอวัยวะต่างๆ ได้
โรคหรือภาวะอะไรบ้างที่ก่อให้มีเลือดออกง่ายหยุดยาก
มีการแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
1.โรคหรือภาวะเกี่ยวกับจำนวนของเกล็ดเลือดต่ำ หรือ ทำงานผิดปกติ ได้แก่ โรคเกล็ดเลือดต่ำจากภูมิคุ้มกัน (immune thrombocytopenia; ITP) โรคไขกระดูกฝ่อ (aplastic anemia) การได้รับยาเคมีบำบัด (chemotherapy drugs) ที่มีการกดไขกระดูกทำให้มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำได้ หรือการรับประทานยาบางชนิดในกลุ่มแอสไพริน หรือ และยากลุ่ม non-steroidal anti-inflammatory drugs (NSAIDs) ได้แก่ ยาไอบูโพรเฟน ที่ทำให้การทำงานของเกล็ดเลือดได้ไม่ดีทำให้เลือดออกง่ายขึ้น หรือโรคเลือดออกง่ายที่เป็นชั่วคราว ที่เกิดจากการทำงานของเกล็ดเลือดผิดปกติ เช่น acquired platelet dysfunction with eosinophilia เป็นต้น
2. โรคหรือภาวะเกี่ยวกับปัจจัยการแข็งตัวของเลือดต่างๆ ที่มีปริมาณลดลง ได้แก่ โรคฮีโมฟีเลียเอ (hemophilia A) และ โรคฮีโมฟีเลียบี (hemophilia B) ที่เกิดจากการขาดแฟคเตอร์แปดและเก้า ตามลำดับ โรควอนวิลลิแบรนด์ (von Willebrand disease; vWD) หรือการรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ได้แก่ ยาวาร์ฟาริน (warfarin)
อาการเลือดออกที่เกิดจากเกล็ดเลือดต่ำเป็นอย่างไร
อาการเลือดออกตามเยื่อบุต่างๆ เช่น เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน และ จุดจ้ำเลือด/ฟกช้ำตามตัว อาการแสดงของเลือดออกในทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง อาเจียน/ถ่ายเป็นเลือด ถ่ายสีดำ อาการแสดงของเลือดออกในสมอง ได้แก่ ปวดศีรษะ อาเจียนมาก ซึม ชัก ตามัว หรือ แขนขาอ่อนแรง/ขยับได้ไม่เท่ากัน
รูปที่ 1 จ้ำเลือด/ฟกช้ำตามตัวง่าย
อาการเลือดออกที่เกิดจากปัจจัยการแข็งตัวของเลือดต่างๆ ต่ำเป็นอย่างไร
อาการเลือดออกในข้อ ได้แก่ ปวดหรือตึงบริเวณข้อ ขยับข้อไม่ได้หรือขยับแล้วติด ข้อบวมกว่าอีกข้าง หรือ ข้ออุ่นขึ้น อาการเลือดออกในกล้ามเนื้อ ได้แก่ รู้สึกปวด ตึงบริเวณกล้ามเนื้อ บวม จับแล้วรู้สึกอุ่นขึ้น ขยับกล้ามเนื้อนั้นไม่ค่อยได้ หรือขยับแล้วปวด ลงน้ำหนักไม่ได้ อาการแสดงของเลือดออกในทางเดินอาหารหรือในสมองดังกล่าวข้างต้น
รูปที่ 2 เลือดออกในข้อเข่าด้านช้าย
ข้อควรปฏิบัติในการดูแลตนเองเพื่อป้องกันมิให้มีภาวะเลือดออกง่ายได้อย่างไร
วิธีปฏิบัติง่ายๆ สำหรับการออกกำลังกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า
เกร็งกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้าเบาๆ โดยเกร็งค้างไว้ แล้วนับ 1-5 ทำซ้ำ รอบละ 10 ครั้ง
ใช้หมอนหรือผ้าขนหนูนุ่มๆ วางรองไว้ใต้หัวเข่า ให้นิ้วเท้าตั้งขึ้นตรงโดยที่ให้หัวเข่าเหยียดตรง แล้วเกร็งค้างไว้ นับ 1-5 ทำซ้ำ รอบละ 10 ครั้ง
เริ่มยกขาขึ้นตรง เกร็งค้างไว้ นับ 1-5 ทำซ้ำ รอบละ 10 ครั้ง
ให้ผู้ป่วยนั่งบนเก้าอี้ และยกเหยียดเข่าทำมุม 90 องศา
วิธีปฏิบัติที่ 2 ขั้นตอนการออกกำลังกล้ามเนื้อรอบข้อเท้า
เริ่มออกกำลังโดยการกระดกข้อเท้าขึ้นลง และหมุนข้อเท้าเข้าและออกเองเป็นวงกลม
ยืนโดยลงน้ำหนักบนนิ้วเท้า นาน 2-5 นาที
วิ่งเหยาะๆ อยู่กับที่ นาน 5 นาที
มือจับที่ราวบันไดให้แน่น และยืนบนขอบของบันไดโดยให้ส้นเท้าพ้นออกจากขอบขึ้นบันได ลำตัวตั้งตรงและยกส้นเท้าขึ้นและลงอย่างช้าๆ
ข้อควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันมิให้มีภาวะเลือดออกง่ายได้อย่างไร
อาการแสดงอย่างไรบ้างที่ต้องรีบมาโรงพยาบาล
เมื่อมีอาการเลือดออกในอวัยวะสำคัญต่างๆ ได้แก่